![]() |
||||||||
นักวิจัย
อาจารย์ฤทธิพันธ์ รุ่งเรือง
หลักสูตรวิทยาศาสตร์เครื่องสำอาง คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยสวนดุสิต |
||||||||
สถานภาพสิทธิบัตร
อยู่ระหว่างยื่นคำขอ
|
||||||||
ที่มา ข้อมูลเบื้องต้น ความสำคัญของปัญหา
ประเทศไทยมีกล้วยไม้ที่มีกลิ่นหอมหลากหลายชนิดที่สามารถนำมาสกัดสารหอมระเหยเพื่อใช้ในธุรกิจสปา เครื่องสำอาง สุคนธบำบัด หรือเป็นวัตถุดิบสำหรับทำน้ำหอมได้ เช่น ช้างกระ อุดรซัณไฌน์ หรือแคทลียาหว่าหยวน บิวตี้เพิลล์ ซึ่งกลิ่นหอมเหล่านี้ที่สกัดได้จากธรรมชาติพบน้อยมาก ส่วนใหญ่เป็นสารเคมีสังเคราะห์ที่นำมาแต่งกลิ่นให้มีลักษณะคล้ายคลึงกัน กล้วยไม้แคทลียาหว่าหยวน บิวตี้เพิล
Cattleya sp. Lindl. (Rlc. Haw Yuan Moon X C. Mari's Song) เป็นกล้วยไม้พันธุ์ผสม ที่มีกลิ่นหอมเป็นเอกลักษณ์ ลักษณะดอกมีสีม่วงเข้ม อมเหลือง คณะผู้วิจัยจึงสนใจที่จะนำดอกกล้วยไม้ชนิดนี้มาสกัดสารให้กลิ่นด้วยวิธีกลั่นพร้อมสกัด (Simultaneous distillation extraction) ใช้หลักการกลั่นด้วยไอน้ำของตัวทําละลายอินทรีย์ การสกัดทําภายใต้ความดันเพื่อป้องกันการสูญเสียองค์ประกอบทางเคมีของกลิ่นเนื่องจากความร้อน สารที่ได้ยังคงให้กลิ่น และกลิ่นที่ได้คงความเป็นเอกลักษณ์ของกล้วยไม้ สามารถใช้เป็นสารหลักให้กลิ่นที่ในน้ำหอมได้ |
||||||||
สรุปและจุดเด่นเทคโนโลยี
กระบวนการสกัดน้ำมันหอมระเหยเพื่อให้ได้กลิ่นที่ยังคงเอกลักษณ์ของดอกกล้วยไม้ โดยใช้วิธีการกลั่นพร้อมสกัด เมื่อนำมาวิเคราะห์องค์ประกอบของสารที่ให้กลิ่น ด้วยวิธี Dynamic headspace-solid phase microextraction gas chromatography mass spectrometer (DHS-SPMEGC-MS) พบสารที่เป็นองค์ประกอบหลัก คือ Cis-rose oxide ซึ่งให้แนวกลิ่น Green, Vegetative, Floral, Herbal พบสาร Indole (ให้แนวกลิ่น Pungent และ Floral) และพบสาร Benzyl alcohol (ให้แนวกลิ่น Floral, Rose, Phenolic, Balsamic) จากองค์ประกอบของสารให้กลิ่นที่พบในกล้วยไม้ชนิดนี้ สามารถนำมาใช้เป็นหัวน้ำหอม หรือสารหลักให้กลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์ในน้ำหอมได้
|
||||||||
ความร่วมมือที่เสาะหา
เสาะหาผู้รับอนุญาตใช้สิทธิ
|
||||||||
สถานภาพของผลงานวิจัย
ต้นแบบระดับ pilot scale ได้ถูกทดสอบในสภาวะทำงานจริง
|
||||||||
![]() |
||||||||
เงื่อนไข
เทคโนโลยีต่อรองราคา
|
||||||||
สนใจสอบถามข้อมูล
สถาบันวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยสวนดุสิต | |
|||||||
|