นางศุภมาส ด่านวิทยากุล
ศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ

องค์ความรู้

ปัจจุบันโรงไฟฟ้าฝ่ายผลิตใช้ระบบ Flue Gas Desulfurization (FGD) ในการดักจับแก๊สซัลเฟอร์ไดออกไซด์ที่เกิดจากการเผาไหม้ถ่านหิน และเกิดกากอุตสาหกรรมชนิดยิปซัมสังเคราะห์ เรียกว่า เอฟจีดียิปซัม (FGD Gypsum) โดยมีปริมาณที่เกิดขึ้นประมาณ 1.7-1.8 ล้านตันต่อปี ซึ่งสวนทางกับแหล่งแร่ยิปซัมธรรมชาติที่คาดว่าจะหมดลงในปีพ.ศ 2600 นี้ ดังนั้นทีมวิจัยอีโคและฟังก์ชันนอลเซรามิกมีแนวคิดในการนำเอฟจีดียิปซัมมาทดแทนแร่ยิปซัมธรรมชาติมาผลิตแผ่นฝ้าพิมพ์ลาย และเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์โดยเพิ่มฟังก์ชันให้แผ่นฝ้าเพื่อสามารถลดมลพิษจำพวก สารประกอบอินทรีย์ระเหยง่าย (Volatile Organic Compounds: VOCs) ที่ระเหยจากสิ่งของเครื่องใช้ในบ้าน เช่น สีทาบ้าน เฟอร์นิเจอร์ วอลล์เปเปอร์ กาว พรม รวมถึงมลพิษจำพวกฝุ่นจิ๋ว (particulate matter 2.5: PM 2.5) ที่เป็นสาเหตุของโรคเรื้อรัง อาทิ โรคหัวใจขาดเลือด หลอดเลือดในสมอง และมะเร็งปอด เป็นต้น การลดมลพิษในอากาศที่อยู่ในบ้านจึงเป็นเรื่องที่ต้องตระหนัก และคำนึงถึงผลร้ายที่ตามมาในระยะยาว

แผ่นฝ้ายิปซัมผสมใยแก้วเสริมฟังก์ชันที่พัฒนาขึ้นนี้สามารถใช้เอฟจีดียิปซัมมาทดแทนแร่ยิปซัมธรรมชาติได้ 100% อีกทั้งยังสามารถผลิตด้วยกระบวนการเดียวกับการผลิตแผ่นยิปซัมจากผงแร่ยิปซัมธรรมชาติ ซึ่งไม่ต้องมีการปรับเปลี่ยนหรือลงทุนเครื่องมือใหม่ ผลิตภัณฑ์ที่ผลิตได้ก็ผ่านมาตรฐาน มอก.1984-2543 ซึ่งผลงานวิจัยนี้นอกจากจะตอบโจทย์ฟังก์ชันการใช้งานที่สามารถดูดซับสารอินทรีย์ระเหยง่ายซึ่งเป็นอันตรายต่อสุขภาพด้วยกลไกการดูดซับทางเคมี ยังพัฒนาสีพ่นเคลือบชนิดพิเศษที่นอกจากจะใช้เพื่อความสวยงามแล้ว ยังมีคุณสมบัติลดฝุ่น PM2.5 ได้อีกด้วย ทำให้แผ่นฝ้ายิปซัมผสมใยแก้วสามารถลดมลพิษในอากาศได้แบบ 2 อิน 1 ไปพร้อมกัน ซึ่งจัดว่าเป็นผลิตภัณฑ์แผ่นฝ้าพิมพ์ลายที่ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตในมิติของความปลอดภัยให้แก่ผู้อยู่อาศัยที่ใช้แผ่นฝ้ายิปซัมผสมใยแก้วที่เสริมฟังก์ชันแล้ว ยังเป็นการนำวัสดุผลพลอยได้ที่มีจำนวนมากมาใช้ประโยชน์ เพื่อทดแทนวัตถุดิบธรรมชาติที่ร่อยหรอลงไปทุกวันด้วย

เสาะหาผู้รับอนุญาตใช้สิทธิ

ได้ต้นแบบระดับ pilot scale

เทคโนโลยีต่อรองราคา