![]() |
||||||||
นักวิจัย
อาจารย์รัฐพรรณ สันติอโนทัย
คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ |
||||||||
สถานภาพสิทธิบัตร
คำขออนุสิทธิบัตร เลขที่คำขอ 2503000536 ยื่นคำขอวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2568
|
||||||||
ที่มา ข้อมูลเบื้องต้น ความสำคัญของปัญหา
โครงการดังกล่าวเป็นการประยุกต์องค์ความรู้การแพทย์แผนไทยร่วมกับกระบวนการทางวิทยาศาสตร์สมัยใหม่ โดยใช้ “น้ำ” เป็นตัวสกัดสารสำคัญตามแนวคิดการต้มยาสมุนไพรแบบดั้งเดิมด้วยศาสตร์การแพทย์แผนไทย เพื่อให้ได้สารสกัดที่ปลอดภัยและมีคุณภาพ สมุนไพรที่ใช้ในการสกัดจึงมุ่งเน้นใช้เครื่องเทศไทยที่นำมาประกอบอาหารเป็นหลัก ได้แก่ กานพลู จันทน์แปดกลีบ และอบเชยเทศ จากกระบวนการพัฒนาสารสกัดในห้องปฏิบัติการสารสกัดดังกล่าวมีฤทธิ์ต้านการอักเสบในหลอดทดลอง เป็นผลิตภัณฑ์ที่พัฒนาได้รับการออกแบบให้มีกรรมวิธีผลิตที่ควบคุมคุณภาพได้อย่างสม่ำเสมอและได้มาตรฐาน รองรับการใช้งานที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ โครงการยังเน้นการถ่ายทอดองค์ความรู้และเทคโนโลยีให้กับกลุ่มวิสาหกิจชุมชนบ้านสันโป่ง จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อส่งเสริมทักษะการผลิตสมุนไพรครบวงจร ตั้งแต่การปลูก การสกัด ไปจนถึงการแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ พร้อมต่อยอดสู่การจำหน่ายเชิงพาณิชย์ ผลิตภัณฑ์นี้จึงไม่เพียงเป็นนวัตกรรมเพื่อสุขภาพจากภูมิปัญญาไทย แต่ยังเป็นเครื่องมือสำคัญในการสร้างอาชีพ พัฒนาเศรษฐกิจฐานราก และยกระดับผลิตภัณฑ์ชุมชนให้สามารถแข่งขันในตลาดได้อย่างยั่งยืน
|
||||||||
สรุปและจุดเด่นเทคโนโลยี
ผลิตภัณฑ์นี้พัฒนาจากภูมิปัญญาไทยผสานกับวิทยาศาสตร์สมัยใหม่ โดยใช้สมุนไพรที่นิยมบริโภคเป็นอาหาร เช่น กานพลู จันทน์แปดกลีบ และอบเชยเทศ ซึ่งมีฤทธิ์ทางเภสัชกรรมไทยในการรักษาโรคฟันและโรคในปากและลำคอ การสกัดใช้ “น้ำ” เป็นตัวทำละลาย เพื่อความปลอดภัยในการบริโภค ผลการทดสอบพบว่า สารสกัดกานพลูที่สกัด 1 ชั่วโมงมีฤทธิ์ต้านการอักเสบในหลอดทดลอง (In-vitro anti-inflammatory activity) ที่สูงสุด รองลงมาคือ สารสกัดอบเชยเทศและจันทน์แปดกลีบ (IC50 = 1.17±0.05, 1.96±0.11 และ 2.42±0.06 mg/ml ตามลำดับ) โดยมีปริมาณแทนนินรวมสูงที่สุดคือสารสกัดกานพลู รองลงมาคือสารสกัดจันทน์แปดกลีบและอบเชยเทศ (87.89, 8.62 และ 7.78 mg TAE/g extract ตามลำดับ) จากการผสมสารสกัดในอัตราส่วน กานพลู 80% : จันทน์ 10% : อบเชย 10% เป็นส่วนผสมที่ให้ผลดีที่สุดเมื่อนำไปใส่ในสูตรตำรับสเปรย์ที่มีสารสกัดรวม 3% (w/w) พบว่ามีฤทธิ์ต้านการอักเสบที่ดี (IC50 = 6.69 ± 0.82 mg/ml) ผลิตภัณฑ์นี้จึงเหมาะสำหรับพัฒนาต่อยอดเชิงพาณิชย์ทั้งในระดับชุมชนและอุตสาหกรรม เพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคที่มองหาทางเลือกจากสมุนไพรไทยในการดูแลช่องปากอย่างมีประสิทธิภาพ
|
||||||||
ความร่วมมือที่เสาะหา
เสาะหาผู้รับอนุญาตใช้สิทธิ
|
||||||||
สถานภาพของผลงานวิจัย
ต้นแบบระดับ pilot scale ได้ถูกทดสอบในสภาวะทำงานจริง
|
||||||||
![]() ![]() ![]() |
||||||||
เงื่อนไข
เทคโนโลยีต่อรองราคา
|
||||||||
สนใจสอบถามข้อมูล
งานทรัพย์สินทางปัญญา มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ | |
|||||||
|