ผศ.ดร.สุนิตา แจ่มยวง
ดร. ณัฏฐ์สรัล สายชนะ
นางสาวกาญจนา สุดภักดี
นายคุณากรณ์ ดีโสภณ
สำนักวิชาวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง

อยู่ระหว่างยื่นคำขอ

จังหวัดเชียงรายเป็นแหล่งผลิตกาแฟสายพันธุ์อะราบิก้ารายใหญ่ของประเทศไทย โดยให้ผลผลิตคิดเป็นร้อยละ 50 ของภาคเหนือตอนบน ในกระบวนการแปรรูปกาแฟจะเกิดวัสดุเหลือทิ้ง เช่น เปลือกและผลกาแฟ มากกว่าร้อยละ 45 ของน้ำหนักผลรวม วัสดุเหล่านี้มีองค์ประกอบของน้ำตาล เพคติน และโพลีแซคคาไรด์ โดยเพคตินจากเปลือกกาแฟมีลักษณะเมทอกซิลต่ำ ซึ่งแตกต่างจากแหล่งอื่น งานวิจัยนี้มุ่งพัฒนาเพคตินจากเปลือกกาแฟให้เป็นเพคตินไฮโดรไลเซต โดยใช้เอนไซม์เพคติเนสในการย่อยให้มีขนาดเล็กลง ช่วยเพิ่มการละลายน้ำ มีคุณสมบัติเป็นพรีไบโอติก และสามารถยับยั้งเซลล์มะเร็งลำไส้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเพคตินไฮโดรไลเซตที่ได้สามารถกระตุ้นการเจริญของจุลินทรีย์โพรไบโอติก Pediococcus sp. และ Lactobacillus casei ได้ดีกว่าอินนูลิน

เทคโนโลยีการสกัดแบบสองขั้นตอนเป็นกรรมวิธีการสกัดด้วยกรดและด่าง ก่อนนําไปตกตะกอน และย่อยด้วยเอนไซม์ เพื่อให้ได้เพคตินไฮโดรไลเซท หรือเพคตินที่มีขนาดเล็กและละลายน้ำได้ ที่มีคุณสมบัติทางพรีไบโอติกและยับยั้งเซลล์มะเร็งลําไส้ ตอบโจทย์ภาคเอกชนที่ต้องการพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่ม อีกทั้งยังเป็นการเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร และสร้างนวัตกรรมใหม่ ๆ จากเปลือกกาแฟ ซึ่งวัตถุดิบเปลือกกาแฟที่มีในประเทศไทยมีทั้งสายพันธุ์อะราบิก้า และโรบัสต้า มีปริมาณมากพอที่จะยกระดับมาผลิตในเชิงอุตสาหกรรมและใช้ในประเทศ

จุดเด่นเทคโนโลยี
- นำไปประยุกต์ใช้กับผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่ม
- เพคตินที่ผ่านการไฮโดรไลเซทสามารถส่งเสริมการเจริญเติบโตและให้ค่าพรีไบโอติกอินเด็กซ์ที่มากกว่าหรือเท่ากับ 1 ได้กับเชื้อ Pediococcus sp. (PE) และ Lactobacillus casei (LC)
- มีความสามารถในการยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งลำใส้ SW480 ร้อยละ 38
- ไม่ก่อให้เกิดความเป็นพิษในเซลล์ลำใส้ปกติ (CCD481CoN)

เสาะหาผู้รับอนุญาตใช้สิทธิ

ต้นแบบระดับห้องปฏิบัติการได้ถูกทดสอบในสภาวะจำลอง

เทคโนโลยีต่อรองราคา