![]() |
||||||||
นักวิจัย
ผศ.ดร.สิทธิ ดวงเพชร
ดร.สมวัน ชุ่มพงษ์พันธ์ สำนักวิชาวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง |
||||||||
สถานภาพสิทธิบัตร
อยู่ระหว่างยื่นคำขอ
|
||||||||
ที่มา ข้อมูลเบื้องต้น ความสำคัญของปัญหา
เครื่องหนังเป็นหนึ่งในสินค้าโภคภัณฑ์ที่มีการซื้อขายกันมากที่สุดในโลก แต่ในปัจจุบันผู้บริโภคให้ความสำคัญกับการลดใช้หนังจากสัตว์และความยั่งยืนมากขึ้น ทำให้เกิดแรงผลักดันให้เกิดหนังเทียมจากวัสดุธรรมชาติหรือที่เรียกกันว่าหนังวีแก้น ความต้องการหนังวีแก้นทั่วโลกเห็นได้จากการนำหนังวีแก้นมาใช้งานที่เพิ่มขึ้นทั้งในด้านการตกแต่งรถยนต์ เสื้อผ้า กระเป๋าและอื่น ๆ หนังวีแก้น หรือหนังเทียม (Faux Leather) ทำมาจากใยสังเคราะห์หรือใยธรรมชาติเคลือบด้วยพลาสติก แต่หนังประเภทนี้ไม่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม วัสดุทดแทนหนังจากวัสดุธรรมชาติจึงเป็นทางเลือกใหม่ของอุตสาหกรรมหนังในปัจจุบัน โดยหนังวีแก้นที่ได้พัฒนาจนเป็นผลิตภัณฑ์ที่วางขายอยู่ทั่วโลกตอนนี้
|
||||||||
สรุปและจุดเด่นเทคโนโลยี
การพัฒนาหนังวีแก้นในประเทศไทยยังไม่เป็นที่แพร่หลายนัก ประกอบกับประเทศไทยเป็นผู้นำในการผลิตยางธรรมชาติรายใหญ่ของโลก แต่ประสบปัญหาราคายางตกต่ำ ดังนั้นผู้วิจัยจึงได้ผลิตหนังวีแก้นจากยางพาราผสมกับวัสดุเหลือใช้จากการเกษตร (อาทิ เห็ดเหลือทิ้ง) จนได้ผลิตภัณฑ์หนังเทียมจากยางพาราที่มีเนื้อสัมผัสเทียบเคียงกับหนังสัตว์ เป็นการเพิ่มมูลค่าให้กับวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรอีกด้วย
จุดเด่นเทคโนโลยี - ใช้น้ำยางพาราสดเป็นวัสดุหลักผสมกับวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร และเป็นการใช้วัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรให้เกิดมูลค่า - วัตถุดิบหลักเป็นวัตถุดิบในไทยทำให้ต้นทุนต่ำ - ไม่มีการใช้พลาสติกและมีการใช้สารเคมีในปริมาณน้อยมากเมื่อเทียบกับอุตสาหกรรมหนัง - กระบวนการผลิตนี้มีการปล่อย CO₂ น้อยลงเมื่อเทียบกับกระบวนการผลิตหนังเทียมประเภทอื่นๆ - สามารถประยุกต์เข้ากับอุตสาหกรรมเดิมได้ง่าย โดยมีการลงทุนด้านเครื่องจักรเพิ่มน้อย |
||||||||
ความร่วมมือที่เสาะหา
เสาะหาผู้รับอนุญาตใช้สิทธิ
|
||||||||
สถานภาพของผลงานวิจัย
ได้ต้นแบบในระดับห้องปฏิบัติการ
|
||||||||
![]() |
||||||||
เงื่อนไข
เทคโนโลยีต่อรองราคา
|
||||||||
สนใจสอบถามข้อมูล
ส่วนจัดการทรัพย์สินทางปัญญาและนวัตกรรม มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง | |
|||||||
|