![]() |
||||||||
นักวิจัย
รองศาสตราจารย์จินดารัตน์ เอกประเสริฐ และคณะ
คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น |
||||||||
สถานภาพสิทธิบัตร
คำขออนุสิทธิบัตร เลขที่คำขอ 2503000639 ยื่นคำขอวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2568
|
||||||||
ที่มา ข้อมูลเบื้องต้น ความสำคัญของปัญหา
อุตสาหกรรมการผลิตปูนซีเมนต์เป็นอุตสาหกรรมที่มีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์มากเป็นอันดับต้นๆ จึงมีการศึกษาวิจัยหาวัสดุทดแทนซีเมนต์ขึ้น กากตะกอนหม้อกรองแบบอัดเป็นของเสียจากอุตสาหกรรมผลิตน้ำตาลจากอ้อย เกิดในขั้นตอนการเติมแคลเซียมออกไซด์ลงในน้ำอ้อยเพื่อตกตะกอนสิ่งปนเปื้อน ส่วนที่ตกตะกอนเรียกว่ากากตะกอนหม้อกรอง จึงมีการนำกากตะกอนหม้อกรองมาใช้ประโยชน์โดยนำไปเผาที่อุณหภูมิสูงให้กลายเป็นเถ้าเพื่อนำเถ้าไปใช้แทนซีเมนต์ แต่คุณสมบัติของเถ้ายังด้อยกว่าซีเมนต์ที่วางจำหน่าย
มีรายงานว่าแบคทีเรียจีนัส Lysinibacillus sp. สายพันธุ์ WH มีความสามารถในการสร้างแคลเซียมคาร์บอเนต เพื่อนำไปใช้เป็นสารเติมในวัสดุซีเมนต์เพื่อให้มีคุณสมบัติเชิงกลให้เทียบเท่าซีเมนต์ที่ขายในท้องตลาดได้ และยังทำให้วัสดุมีคุณสมบัติสมานรอยร้าวด้วยตัวเองได้ จากข้อมูลตามข้างต้น ผู้ประดิษฐ์จึงได้คิดค้นสูตรวัสดุเชื่อมประสานซีเมนต์คอมโพสิทที่ใช้เถ้ากากตะกอนหม้อกรองแบบอัดและแบคทีเรีย Lysinibacillus sp. สายพันธุ์ WH ซึ่งพบว่าคุณสมบัติของวัสดุเชื่อมประสานนี้มีคุณสมบัติเชิงกลเทียบเคียงกับวัสดุซีเมนต์ที่มีจำหน่าย |
||||||||
สรุปและจุดเด่นเทคโนโลยี
- มีค่ากำลังอัดที่ดี มีค่า 40-55 MPa ค่าการดูดซึมน้ำลดลง มีค่า 15-25% ความพรุนของเนื้อวัสดุลดลง มีค่า 22-35% เมื่อเทียบกับซีเมนต์ที่วางจำหน่ายมีค่ากำลังอัด 40-50 MPa ค่าการดูดซึมน้ำ 17-20% และความพรุนของเนื้อวัสดุ 32-35%
- เชื่อมประสานรอยร้าวด้วยตัวเองได้ - ใช้เป็นวัสดุภายนอกอาคารที่สามารถรองรับน้ำหนักได้ - สามารถนำไปใช้เป็นส่วนประกอบในการผลิตวัสดุผสมซีเมนต์ชนิดอื่นๆ เช่น มอร์ต้า คอนกรีตได้ |
||||||||
ความร่วมมือที่เสาะหา
เสาะหาผู้รับอนุญาตใช้สิทธิ
|
||||||||
สถานภาพของผลงานวิจัย
ได้ต้นแบบในระดับห้องปฏิบัติการ
|
||||||||
เงื่อนไข
เทคโนโลยีต่อรองราคา
|
||||||||
สนใจสอบถามข้อมูล
ศูนย์ทรัพย์สินทางปัญญา มหาวิทยาลัยขอนแก่น | |
|||||||
|