![]() |
||||||||
นักวิจัย
รศ.ดร. ขนิษฐา ธนานุวงศ์
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย |
||||||||
สถานภาพสิทธิบัตร
คำขอสิทธิบัตร เลขที่คำขอ 2003000486 ยื่นคำขอวันที่ 6 มีนาคม 2563
|
||||||||
ที่มา ข้อมูลเบื้องต้น ความสำคัญของปัญหา
การพัฒนาเม็ดบีดส์ฟักทองเพื่อใช้เป็นส่วนผสมในนมถั่วเหลือง โดยใช้เทคนิค spherification ที่เกิดจากการขึ้นรูปเจลของอัลจิเนต โดยการหยดสารละลายอันมีส่วนประกอบจากฟักทอง สตาร์ชดัดแปร และโซเดียมอัลจิเนต ในสารละลายแคลเซียมแลคเตท ซึ่งกระบวนการดังกล่าวเป็นกระบวนการที่ไม่ซับซ้อน และไม่ต้องใช้เงินลงทุนสูงเมื่อต้องการผลิตในเชิงพาณิชย์ อย่างไรก็ตามในการผลิตน้ำเต้าหู้บรรจุขวดนั้น มีการใช้กระบวนการบรรจุร้อน ซึ่งก่อให้เกิดการสูญเสียเนื้อสัมผัสของเม็ดบีดส์ฟักทอง โดยคาดว่าเกิดจากโปรตีนที่มีอยู่ในน้ำนมถั่วเหลือง ทำปฏิกิริยากับแคลเซียมในวุ้นอัลจิเนตในขณะที่น้ำเต้าหู้ยังมีอุณหภูมิสูงอยู่ทำให้เม็ดบีดส์ฟักทองนิ่มลงเป็นอย่างมาก ดังนั้นจึงต้องเปลี่ยนกรรมวิธีการผลิตเม็ดบีดส์ที่เหมาะสมกับกระบวนการผลิต และเป็นที่ยอมรับของผู้บริโภคมากขึ้น โดยอาศัยการขึ้นรูปเม็ดบีดส์จากไฮโดรคอลลอยด์ผสม เช่น สตาร์ชดัดแปร carboxymethyl cellulose (CMC), konjac-mannan (KM) และ xanthan gum (XG) จากนั้นจึงทำแห้งเม็ดบีดส์เพื่อให้เก็บไว้ได้นานขึ้น
|
||||||||
สรุปและจุดเด่นเทคโนโลยี
1. ผลิตภัณฑ์เม็ดบีดส์นี้สามารถนำไปประยุกต์ใช้เป็นส่วนผสมของอาหารหรือเครื่องดื่มได้หลากหลายประเภท และให้คุณค่าจากสารอาหาร รวมถึงสารที่มีประโยชน์อื่นๆ
เช่น สารต้านออกซิเดชัน เป็นต้น จากพืชผักอีกด้วย 2. กระบวนการผลิตเม็ดบีดส์ที่พัฒนาขึ้นนี้ ไม่ซับซ้อน และสามารถเพิ่มความหลากหลายให้แก่ผลิตภัณฑ์ได้ โดยการปรับเปลี่ยนส่วนผสมของชิ้นเจล โดยไม่ส่งผลกระทบต่อขั้นตอนการผลิต 3.ผลิตภัณฑ์สุดท้ายมีความชื้นต่ำ จัดอยู่ในกลุ่มอาหารแห้ง จึงสามารถเก็บไว้ได้นาน ที่อุณหภูมิห้อง และสะดวกในการเก็บรักษา |
||||||||
ความร่วมมือที่เสาะหา
เสาะหาผู้รับอนุญาตใช้สิทธิ
|
||||||||
สถานภาพของผลงานวิจัย
ต้นแบบระดับห้องปฏิบัติการได้ถูกทดสอบในสภาวะจำลอง
|
||||||||
![]() |
||||||||
เงื่อนไข
เทคโนโลยีต่อรองราคา
|
||||||||
สนใจสอบถามข้อมูล
สำนักส่งเสริมการใช้ประโยชน์ สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน) | |
|||||||
|