![]() |
||||||||
นักวิจัย
รศ.จินตนาภรณ์ วัฒนธร และคณะ
คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น |
||||||||
สถานภาพสิทธิบัตร
อนุสิทธิบัตร เลขที่ 1803000744
|
||||||||
ที่มา ข้อมูลเบื้องต้น ความสำคัญของปัญหา
ผลหม่อนสุกมีสารที่สำคัญคือแอนโทไซยานิน (anthocyanin) อยู่มาก โดยสารแอนโทไซยานินจะมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระซึ่งเป็นปัจจัยที่สำคัญปัจจัยหนึ่งในการทำให้เกิดพยาธิสภาพต่อระบบประสาท รวมทั้งทำให้เกิดการตายของเซลล์ประสาท มีการศึกษาพบว่าสารสกัดผลหม่อนมีศักยภาพเพิ่มการเรียนรู้และความจำได้ และยังมีผลปกป้องสมอง ทำให้ปริมาตรสมองขาดเลือดลดลง ลดการตายของเซลล์ประสาท
แต่ผลหม่อนเป็นพืชที่ออกตามฤดูกาลและมีระยะเวลาการเก็บเกี่ยวผลผลิตที่สั้น ระยะเวลาในการเก็บรักษาผลหม่อนสดโดยที่คุณภาพของผลหม่อนยังคงเดิมจึงมีระยะเวลาสั้นเก็บได้ไม่นาน ดังนั้นการแปรรูปผลหม่อนเพื่อคงคุณภาพและเพิ่มมูลค่าจึงเป็นสิ่งสำคัญ ดังนั้น ผู้ผลิตจึงได้พัฒนาสารสกัดผลหม่อนในรูปแบบไฟโตโซม (phytosome) และกรรมวิธีการผลิตแบบใหม่โดยการนำเทคโนโลยีการเอนแคปซูเลชันมาประยุกต์ใช้ ทำให้ได้สารสกัดไฟโตโซมที่มีลักษณะเป็นอนุภาคทรงกลมที่มีแกนกลางเป็นสารสกัผลหม่อนและห่อหุ้มผิวด้านนอกด้วยฟอส-ฟาติดิลโคลีนที่มีเส้นผ่านศูนย์กลาง 50-300 นาโนเมตร ทำให้ได้ผลิตภัณฑ์อาหารสุขภาพจากสารสกัดผลหม่อนให้มีความคงคุณภาพของผลหม่อน อยู่ในรูปแบบพร้อมรับประทาน |
||||||||
สรุปและจุดเด่นเทคโนโลยี
• สามารถนำไปพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์สำหรับป้องกันและรักษาอาการผิดปกติที่เกิดขึ้นในโรคอ้วนร่วมกับโรคหลอดเลือดสมองชนิดขาดเลือดได้
• มีผลการทดลองในระดับห้องทดลอง พบว่ามีปริมาณสารสำคัญสูง ได้แก่ สารประกอบฟีนอล ฟลาโวนอยด์ แทนนิน กรดแกลลิก และไซยานิดีน-กลูโคไซด์ • เมื่อนำไปทดสอบเปรียบเทียบกับสารสกัดจากผลหม่อนธรรมดาพบว่ามีค่าความคงตัวของฤทธิ์ทางชีวภาพมากกว่าอย่างน้อย 3 เดือน |
||||||||
ความร่วมมือที่เสาะหา
เสาะหาผู้รับอนุญาตใช้สิทธิ
|
||||||||
สถานภาพของผลงานวิจัย
ได้ต้นแบบในระดับห้องปฏิบัติการ
|
||||||||
![]() |
||||||||
เงื่อนไข
เทคโนโลยีต่อรองราคา
|
||||||||
สนใจสอบถามข้อมูล
ศูนย์ทรัพย์สินทางปัญญา มหาวิทยาลัยขอนแก่น | |
|||||||
|